เมื่อพูดถึง “ไอโอดีน” คนไทยส่วนใหญ่จะนึกถึง“โรคคอพอก” เนื่องจากถูกถ่ายทอดกันมารุ่นสู่รุ่นว่า ถ้าขาดสารไอโอดีนจะทำให้เกิดโรคคอพอก ถ้าไม่อยากเป็นโรคคอหอยพอกต้องบริโภคอาหารทะเล เช่น ปลาทะเล ปู หอยทะเล แต่ใครจะรู้บ้างว่าสารไอโอดีนนั้นมีผลต่อระดับสติปัญญาหรือไอ คิวของเราด้วย และในปัจจุบันคนไทยเสี่ยงเป็นโรคเอ๋อหรือโรค ปัญญาอ่อนกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการได้รับปริมาณสารไอโอดีนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน และคนไทยเองก็ยังขาดความรู้ในเรื่องของไอโอดีน จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสารตัวนี้เท่าที่ควร หากอยากรู้ว่าไอโอดีนนั้นมีความสำคัญอย่างไรกับเราบ้าง ติดตามอ่านกันเลยค่ะความ สำคัญของไอโอดีนต่อร่างกาย ไอโอดีน คือ ธาตุที่เกิดในธรรมชาติ มีมากในสัตว์และพืชในทะเล เป็นธาตุที่จำเป็นแก่ร่างกายแม้ต้องการเพียงเล็กน้อยแต่ก็ขาดไม่ได้ เพราะเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นในการผลิตฮอร์โมนของต่อมธัยรอยด์ ซึ่งต่อมธัยรอยด์จำเป็นต้องใช้ไอโอดีนเพื่อสร้างฮอร์โมน ชื่อว่า “ธัยร๊อกซิน” ฮอร์โมนนี้จำเป็นสำหรับควบคุมการทำหน้าที่และเสริมความเจริญเติบโตตามปกติ ของสมอง ประสาท และเนื้อเยื่อของร่างกาย โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ถ้าขาดสารไอโอดีนแล้วจะส่งผลให้สมองเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ระดับสติปัญญาของเด็กก็จะลดลง ที่สำคัญถ้าหญิงตั้งครรภ์ขาดสารไอโอดีน อาจทำให้ทารกตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์ แท้ง พิการ หรือปัญญาอ่อนและเป็นเด็กเอ๋อได้ไอโอดีนกับโรคเอ๋อ... ปัจจุบันโรคปัญญาอ่อนที่เกิดกับมนุษย์มีสาเหตุเกิดได้หลายประการด้วยกันเช่น อาจจะเกิดจากพันธุกรรมที่เรียกว่า Down’s syndrome หรือ Mongolism โรคนี้เกิดจากมีจำนวนโครโมโซมผิดปกติ ป้องกันได้ยาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับยีนส์ และการมาจับคู่กันของยีนส์ ส่วนโรคปัญญาอ่อนอีกชนิดหนึ่ง เราเรียกว่า โรคเอ๋อ เป็นโรคปัญญาอ่อนที่เกิดขึ้นเนื่องจากมารดาไม่มีความรู้เกี่ยวกับด้านโภชนาการ เมื่อตั้งครรภ์และแม่ขาดไอโอดีนจะมีผลกระทบไปถึงทารกที่อยู่ในครรภ์ด้วย ทำให้ทารกที่คลอดมาเป็นโรคปัญญาอ่อน เนื่องจากร่างกายของแม่ ในช่วงตั้งครรภ์ขาดสารไอโอดีน จึงทำให้ขาดฮอร์โมนธัยร๊อกซินซึ่งมีผลเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของร่าง กายและสมองทารก เมื่อคลอดออกมาจึงปัญญาอ่อนภาวะผิดปกติจากการขาดสารไอโอดีนสามารถแบ่งได้ตามช่วงอายุ ดังนี้
บริโภคไอโอดีนเท่าไร? ถึงจะพอดี โดยปกติร่างกายคนเราต้องการสารไอโอดีนรวมกันแล้วไม่เกิน 1 ช้อนชา หรือเฉลี่ยแล้วในวันหนึ่ง ๆแม้ว่าร่างกายต้องการสารไอโอดีนเพียงแค่ 150 ไมโครกรัมเท่านั้น แต่ก็ขาดไม่ได้แม้แต่วันเดียว เพราะร่างกายไม่สามารถสะสมไว้ได้ สารไอโอดีนบางส่วนจะถูกนำไปใช้ในการสร้างฮอร์โมนสำหรับการเติบโตของร่างกาย และสมอง ส่วนที่เหลือจะถูกขับออกจากร่างกาย เราจึงจำเป็นต้องกินอาหารที่มีสารไอโอดีนทุกวัน
ที่ผ่านมาเราจะได้รับสารไอโอดีนจากการรับประทานอาหารที่มีสารไอโอดีน เช่น อาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเล ปู สาหร่ายทะเล หรือหอยทะเล มีประชาชนจำนวนมากที่ไม่ได้รับสารไอโอดีนที่เพียงพอ เนื่องจากฐานะทางเศรษฐกิจหรือที่อยู่อาศัยไม่เอื้ออำนวยให้ซื้อหาอาหารดังกล่าวมารับประทาน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคได้รับไอโอดีนมากขึ้น โดยได้ออกกฎหมายปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ เกลือบริโภค น้ำปลา น้ำเกลือปรุงอาหาร และผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลือง เช่น ซีอิ๊ว ซอสปรุงรส โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้น จะต้องมีสารไอโอดีนเป็นส่วนผสมตามที่ อย.กำหนด ซึ่งอย. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการออกประกาศดังกล่าวจะทำให้ผู้บริโภคได้รับปริมาณสารไอโอดีนที่เพียงพอเลือกอย่างไร “ผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีน” ผู้บริโภคสามารถสังเกตว่าผลิตภัณฑ์ที่มีการเสริมไอโอดีนลงไป จะมีคำว่า “ผสมเกลือเสริมไอโอดีน” หรือ“ใช้ไอโอดีนเป็นส่วนผสม” หรือ “ผสมไอโอดีน” บนฉลาก ฉลากจะต้องแสดงข้อความเป็นภาษาไทย โดยระบุชื่ออาหาร (ถ้ามี) มีเลขสารบบอาหารในกรอบเครื่องหมาย อย. แสดงชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้แบ่งบรรจุเพื่อจำหน่าย น้ำหนักสุทธิ ระบุข้อความ “ควรบริโภคก่อน” และมีข้อความว่า “ ควรเก็บในที่ร่มและแห้ง ”
อย่าลืมนะคะ บริโภคไอโอดีนให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อเสริมสร้างสติปัญญา ไอคิวดี ไอโอดีนช่วยได้จริงๆ
ที่มา http://www.vcharkarn.com/varticle/42130
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น